ภูมิแพ้อาหารในสุนัข
ภูมิแพ้อาหารในสุนัข
คุณผู้อ่านเชื่อหรือไม่ว่าสุนัขมีโอกาสแพ้อาหารที่กินอยู่เป็นประจำ ซึ่งในปัจจุบันยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับภาวะภูมิแพ้อาหารในสุนัขอยู่ไม่น้อย หากเจ้าของสุนัขทราบถึงข้อเท็จจริงและปรับเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ ก็จะช่วยให้สุนัขตัวโปรดห่างไกลจากภาวะภูมิแพ้อาหารได้มากทีเดียว
ก่อนอื่นเจ้าของสุนัขควรทำความเข้าใจก่อนว่าสุนัขทุกตัวไม่ได้แพ้อาหารมาตั้งแต่กำเนิด แต่จะมาแพ้หลังจากที่กินอาหารนั้นซ้ำๆ ติดต่อกันมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง เนื่องจากสารอาหารมีโอกาสกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ต่อต้านสารอาหารชนิดนั้นๆ เสียเอง เมื่อสุนัขกินอาหารเดิมๆ จึงทำให้เกิดการแพ้อาหารได้ ซึ่งผลจากรายงานพบว่าไม่ควรให้อาหารสุนัขซ้ำๆ ติดต่อกันนานเกิน 2 ปี โดยภาวะภูมิแพ้อาหารจะพบได้ในทุกช่วงวัย ไม่เกี่ยวข้องกับฤดูกาลหรือการถ่ายทอดทางพันธุกรรม เช่น สุนัขในครอกเดียวและเกิดจากพ่อแม่เดียวกัน ไม่จำเป็นต้องมีอาการแพ้อาหารทุกตัว
อาการเบื้องต้นของการแพ้อาหาร ได้แก่ สุนัขมักจะคันตามตัว กัดย้ำ เลียเท้าบ่อยๆ ถูหน้า ท้องแดง ตัวแดง หูแดง หูอักเสบ ถูปากจนรอบปากถลอก อาจมีสะเก็ดลักษณะเหมือนรังแคเกาะอยู่ตามเส้นขนและผิวหนัง บางตัวจะคันและเกามากทำให้เป็นแผลและเกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย/ยีสต์ที่ผิวหนังแทรกซ้อนตามมา บางรายที่ผิวหนังอักเสบเรื้อรังอาจพบการหนาตัวขึ้นของผิวหนัง และมีการรวมกลุ่มของเม็ดสีบริเวณผิวหนังที่อักเสบเรื้อรังนั้นจนเป็นสีดำ เราจะพบการอักเสบแบบนี้ได้บ่อยบริเวณใบหู เท้า ขาหนีบ หรือรักแร้ ซึ่งอาการจะคล้ายคลึงกับภาวะภูมิแพ้แบบพันธุกรรม เช่น แพ้ละอองเกสร ไรฝุ่น เมื่อพาไปรักษาก็จะดีขึ้นช่วงหนึ่งและกลับมาเป็นใหม่ภายหลังจากนั้นไม่นาน นั่นก็เพราะไม่ได้รักษาหรือแก้ไขตรงสาเหตุที่แท้จริง ทางที่ดีที่สุดจึงควรพาสุนัขไปพบสัตวแพทย์เมื่อมีอาการดังกล่าวเกิดขึ้น เนื่องจากต้องวินิจฉัยโรคร่วมกับปัจจัยอื่นๆ เช่น อายุ ประวัติการกินอาหาร การเลี้ยงดู รวมถึงวิธีการรักษาก็แตกต่างกันไป
วิธีรักษาที่ได้ผลดีที่สุดคือ หยุดให้อาหารเดิมทั้งหมด และทดลองให้อาหารใหม่ที่สุนัขไม่เคยกินมาก่อนในชีวิต เนื่องจากสุนัขจะไม่แพ้สิ่งที่ไม่เคยกิน หมายความว่า เดิมสุนัขเคยกินอาหารที่มีเนื้อไก่เป็นหลัก ก็ให้เปลี่ยนมาเป็นอาหารที่มีปลาเป็นหลักแทน เป็นต้น หรือจะทดลองให้อาหารสำเร็จรูปที่มีโปรตีนชนิดที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก ซึ่งเหมาะสำหรับการทดสอบภาวะภูมิแพ้อาหาร เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันจะมองไม่เห็นโมเลกุลที่มีขนาดเล็กๆ จึงไม่เกิดปฏิกิริยาการกระตุ้น ทำให้ไม่เกิดอาการแพ้ ที่สำคัญต้องดูส่วนประกอบอื่นๆ ว่าไม่ให้ซ้ำกับอาหารเดิมที่เคยกินด้วย โดยอาจไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนยี่ห้อ และควรงดขนมทุกชนิดในระหว่างที่มีการทดสอบอาหารด้วย
อย่างไรก็ตามเจ้าของไม่ต้องกังวล เนื่องจากสัตวแพทย์จะเป็นผู้ตัดสินใจเลือกอาหารและกำหนดปริมาณที่เหมาะสมให้แก่สุนัขร่วมกับเจ้าของ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาทดสอบอาหารนานประมาณ 1-3 เดือน โดยจะเริ่มเห็นความแตกต่างหลังจาก 1เดือนแรกหลังจากเริ่มทดสอบอาหารเนื่องจากยังมีอิทธิพลของอาหารเดิมอยู่ สิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ สมาชิกทุกคนในครอบครัวจะต้องทำความเข้าใจและให้ความร่วมมือในการทดสอบดังกล่าวเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของสุนัข เนื่องจากถ้าอาการของโรคผิวหนังมาจากการแพ้อาหารนั้น เพียงแค่เปลี่ยนอาหารให้ สุนัขก็จะไม่ต้องทานยาอีกต่อไป โดยการรักษาจะแตกต่างจากภูมิแพ้ซึ่งต้องทำการรักษากันตลอดชีวิต
ส่วนวิธีป้องกันเพื่อลดโอกาสในการแพ้อาหารของสุนัขคือ ไม่ควรให้อาหารซ้ำๆ ติดต่อกันนานเกิน 2 ปี และหลีกเลี่ยงเหตุที่จะทำให้สุนัขเกิดภาวะท้องเสีย หรือลำไส้อักเสบตั้งแต่วัยเด็กเนื่องจากจะทำให้ลำไส้มีความผิดปกติในการดูดซึมอาหารและกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ได้มากขึ้น และควรเลือกอาหารที่ประกอบด้วยโปรตีนที่มีคุณภาพดี ย่อยง่าย เนื่องจากโปรตีนที่มีโมเลกุลใหญ่ย่อยยากมักจะก่อให้เกิดภาวะภูมิแพ้อาหารได้ เพียงแค่เจ้าของใส่ใจและเข้าใจอย่างถ่องแท้ สุนัขตัวโปรดก็จะมีโภชนาการอย่างสมดุล และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน
.
ด้วยความปรารถนาดีจาก Pet Friends Groups
· โรงพยาบาลเพื่อนสัตว์เลี้ยงศรีราชา (เปิดให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง) โทร. 089-2448865 หรือ Facebook “โรงพยาบาลเพื่อนสัตว์เลี้ยงศรีราชา-รักษาสัตว์ 24 ชั่วโมง”
· คลินิกเพื่อนสัตว์เลี้ยงบางแสน (Pet Friends Bangsaen) (9.00-18.00 น.) โทร.038-199174, 098-7165698 หรือ Facebook “PetFriends Bangsaen”
· โรงพยาบาลสัตว์เพ็ทเฟรนด์ บ้านบึง (9.00-20.00 น.) โทร. 092-8325698 หรือ Facebook “โรงพยาบาลสัตว์เพ็ทเฟรนด์ บ้านบึง”