คู่มือการดูแลลูกสุนัขแรกเกิดสำหรับพ่อแม่มือใหม่
สพ.ญ.อาภาพร เจตนาวณิชย์
20 ส.ค. 2568
19
คู่มือการดูแลลูกสุนัขแรกเกิดสำหรับพ่อแม่มือใหม่
การดูแลลูกสุนัขแรกเกิดเป็นเรื่องที่สำคัญ ต้องใช้เวลาและความใส่ใจอย่างมากในการดูแล สำหรับพ่อแม่มือใหม่สิ่งที่ต้องรู้และต้องเตรียมความพร้อมมีดังนี้
การเตรียมที่อยู่ที่อบอุ่น
ลูกสุนัขแรกเกิดต้องการที่อยู่ที่อบอุ่น ปลอดภัย และเงียบสงบ ควรจัดเตรียมผ้าห่มนุ่ม ๆ เพื่อให้ความอบอุ่น และที่นอนที่แห้งและสะอาด
การให้นม
ลูกสุนัขควรได้รับนมจากแม่สุนัขเพราะนมแม่มีสารอาหารที่จำเป็น หากแม่สุนัขไม่สามารถให้นมได้ ให้ใช้นมสำหรับลูกสุนัข หรือที่สัตวแพทย์แนะนำ
การดูแลเรื่องอุณหภูมิ
ลูกสุนัขแรกเกิดไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิร่างกายได้ดี ควรใช้ผ้าห่มหรือแผ่นทำความร้อนเพื่อให้ความอบอุ่น แต่ต้องระวังไม่ให้ร้อนเกินไป
การกระตุ้นการขับถ่าย
แม่สุนัขมักจะเลียหน้าท้องและอวัยวะเพศของลูกสุนัขเพื่อกระตุ้นการขับถ่าย หากแม่สุนัขไม่สามารถทำได้ ผู้ปกครองอาจต้องใช้สำลีชุบน้ำอุ่นมาเช็ดเบา ๆ บริเวณอวัยวะเพศของลูกสุนัขหลังการให้นม
การเฝ้าระวังเรื่องสุขภาพ
ควรตรวจสอบการเจริญเติบโตของลูกสุนัขอยู่เสมอ ดูว่าลูกสุนัขกินนมได้ดีหรือไม่ น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นหรือไม่ หากพบปัญหาสุขภาพ เช่น ท้องเสียหรืออ่อนแอ ควรปรึกษาสัตวแพทย์ทันที
การเริ่มให้อาหาร
ลูกสุนัขสามารถเริ่มรับอาหารได้เมื่ออายุประมา ณ 4-8 สัปดาห์ โดยผสมน้ำลงในอาหารเให้เป็นเนื้อที่นิ่มและง่ายต่อการย่อย
การเข้าสังคมและการฝึกฝน
ช่วงเวลาสำคัญในการเริ่มต้นสอนลูกสุนัขให้รู้จักกับสังคมรอบตัวคือระหว่างอายุ 3-14 สัปดาห์ ช่วงนี้ลูกสุนัขจะเริ่มสำรวจโลกภายนอก ควรฝึกให้ลูกสุนัขคุ้นเคยกับผู้คนและเสียงต่าง ๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไป
การฉีดวัคซีนและการถ่ายพยาธิ
ลูกสุนัขจำเป็นต้องได้รับวัคซีนตามกำหนดที่สัตวแพทย์แนะนำ และต้องถ่ายพยาธิตามคำแนะนำเพื่อป้องกันโรค ลูก สุนัขสามารถทำวัคซีนได้เมื่ออายุ 45 วัน
การเตรียมที่อยู่สำหรับลูกสุนัขแรกเกิด
การจัดเตรียมที่อยู่ที่อบอุ่นและปลอดภัยสำหรับลูกสุนัขแรกเกิดเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ลูกสุนัขเติบโตได้อย่างแข็งแรง เนื่องจากลูกสุนัขไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิร่างกายได้เองในช่วงสัปดาห์แรก สิ่งที่พ่อแม่มือใหม่ต้องเตรียมให้พร้อมดังนี้
1.1 สถานที่ที่เงียบสงบ
สำหรับลูกสุนัขควรอยู่ในพื้นที่ที่เงียบสงบและปลอดภัย ห่างจากสถานที่ที่มีเสียงดังหรื อการจราจรที่พลุกพล่าน เพื่อไม่ให้ลูกสุนัขตื่นตกใจ
1.2 การใช้คอกหรือกรงสำหรับสัตว์เลี้ยง
คอกหรือกรงควรมีความมิดชิด มีผนังล้อมรอบเพื่อกันลมและรักษาความอบอุ่นให้กับลูกสุนัข
1.3 การใช้ผ้าห่มหรือเบาะรอง
ปูพื้นด้วยผ้าห่มหรือเบาะรองที่นุ่มและหนาเพื่อให้ลูกสุนัขสามารถนอนสบาย ผ้าห่มและเบาะรอง ควรซักทำความสะอาดอยู่เสมอ
1.4 การใช้แผ่นทำความร้อน กระเป๋าน้ำอุ่น หรือไฟกก
ควรใช้แผ่นทำความร้อนสำหรับสัตว์เลี้ยงหรือกระเป๋าน้ำอุ่น (พันด้วยผ้ าบาง ๆ เพื่อไม่ให้ร้อนเกินไป) วางไว้ข้างลูกสุนัข หรือเปิดไฟกกเพื่อให้ความอบอุ่น
ระวังอย่าให้ลูกสุนัขอยู่ใกล้ความร้อนมากเกินไป ควรตรวจสอบอุณหภูมิอย่างสม่ำเสมอ
1.5การควบคุมอุณหภูมิในห้อง
ห้องที่ลูกสุนัขอาศัยอยู่ควรมีอุณหภูมิที่คงที่ อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 26-32°C ในช่วงแรกเกิด
ระวังไม่ให้ห้องเย็นเกินไป หลีกเลี่ยงการใช้พัดลมหรือแอร์ที่ส่งลมตรงไปยังลูกสุนัข
1.6 การดูแลเรื่องความสะอาด
ควรทำความสะอาดที่นอนและบริเวณที่ลูกสุนัขอยู่บ่อย ๆ เพื่อป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรกหรือเชื้อโรค ซึ่งอาจทำให้ลูกสุนัขเจ็บป่วยได้
การให้นมลูกสุนัขแรกเกิด
การให้นมลูกสุนัขแรกเกิดเป็นขั้นตอนสำคัญในการดูแลให้ลูกสุนัขเติบโตอย่างแข็งแรง เนื่องจากในช่วงสัปดาห์แรก ลูกสุนัขจะต้องพึ่งพานมแม่หรือนมทดแทนสำหรับสัตว์เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ
2.1 การให้นมที่ได้จากแม่สุนัข (Natural Nursing)
นมแม่เป็นแหล่งอาหารที่ดีที่สุดสำหรับลูกสุนัขแรกเกิด เนื่องจากมี โคลอสตรุ้ม (colostrum) ซึ่งอุดมไปด้วยแอนติบอดีที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในช่วงวันแรก ๆ
ลูกสุนัขควรได้รับการให้นมแม่ทันทีหลังคลอดและควรได้รับอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 3-4 สัปดาห์ โดยไม่จำเป็นต้องให้อาหารเสริมเพิ่มเติมในช่วงนี้
แม่สุนัขควรได้รับสารอาหารที่สมดุลเพียงพอ เพื่อให้มีน้ำนมที่มีคุณภาพเพียงพอสำหรับลูกสุนัขทุกตัว
2.2 ในกรณีที่แม่สุนัขไม่สามารถให้นมลูกสุนัขได้
หากแม่สุนัขไม่สามารถให้นมลูกได้ เช่น แม่สุนัขป่วยหรือไม่มีน้ำนมที่เพียงพอ ควรใช้นมสูตรทดแทนสำหรับลูกสุนัข (puppy formula milk) ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง เช่น นมแพะหรือนมEsbelac
ห้ามใช้นมวัวในลูกสุนัขแรกเกิดและทุกช่วงวัย เนื่องจากในนมวัวมีแลคโตสที่ลูกสุนัขไม่สามารถย่อยได้ และอาจทำให้เกิดอาการท้องเสียรุนแรง
2.3 วิธีการใช้นมสูตรทดแทน
การเลือกขวดนม เลือกขวดนมหรือจุกให้นมสำหรับลูกสุนัขที่มีขนาดเหมาะสม มีหัวนมที่นุ่มและขนาดพอดี เพื่อให้ลูกสุนัขสามารถดูดนมได้ง่าย
การให้นม ควรอุ้มลูกสุนัขในท่านอนคว่ำ คล้ายกับการดูดนมจากแม่ หลีกเลี่ยงการให้นมนอนหงาย เพราะอาจทำให้นลูกสุนัขสำลักนมได้
ความถี่ในการให้นม ลูกสุนัขแรกเกิดควรได้รับนมทุก 2 ชั่วโมงตลอดทั้งวัน ในช่วงสัปดาห์แรก โดยปริมาณนมจะขึ้นอยู่กับขนาดและน้ำหนักตัวของลูกสุนัข
การอุ่นนม นมที่เตรียมสำหรับลูกสุนัขควรอุ่นให้มีอุณหภูมิใกล้เคียงกับอุณหภูมิร่างกาย (ประมาณ 35-37.8°C) ควรทดสอบอุณหภูมินมก่อนป้อนทุกครั้ง
2.4 การดูแลหลังจากการให้นม
หลังจากป้อนนมแล้ว ควรใช้สำลีชุบน้ำอุ่นลูบบริเวณท้อง อวัยวะเพศและรูทวารของลูกสุนัข เพื่อกระตุ้นให้ลูกสุนัขขับถ่าย เนื่องจากลูกสุนัขไม่สามารถขับถ่ายได้เองในช่วงแรก
ชั่งน้ำหนักของลูกสุนัขเป็นประจำเพื่อให้แน่ใจว่าลูกสุนัขได้รับสารอาหารเพียงพอ (น้ำหนักควรเพิ่มขึ้น 5-10 % ทุกวัน)
2.5 สัญญาณของการได้รับนมไม่เพียงพอ
สัญญาณที่บ่งบอกว่าลูกสุนัขอาจได้รับนมไม่เพียงพอ มีดังนี้
น้ำหนักไม่เพิ่มขึ้นหรือลดลง ลูกสุนัขควรมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นทุกวัน หากน้ำหนักคงที่หรือลดลง อาจเป็นสัญญาณว่าลูกสุนัขได้รับนมไม่เพียงพอ น้ำหนักไม่ควรลดเกิน 10% ของน้ำหนักตัว และน้ำหนักตัวควรจะค่อยๆเพิ่มในวันถัดไป 5-10% ของน้ำหนักตัว
ร้องไห้หรือครางบ่อยๆ ลูกสุนัขที่หิวมักจะร้องไห้หรือครางบ่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ใกล้แม่ อาการนี้อาจบ่งบอกว่าลูกสุนัขหิวและไม่ได้รับนมเพียงพอ
ลูกสุนัขดูอ่อนแรงหรือเซื่องซึม หากลูกสุนัขดูอ่อนแรง ไม่กระตือรือร้น หรือไม่ค่อยขยับตัว อาจเป็นเพราะลูกสุนัขได้รับพลังงานที่ไม่เพียงพอ อาจจะเพิ่มรอบการป้อนนมหรือเพิ่มปริมาณของนม
ผิวหนังแห้งหรือไม่ยืดหยุ่น ลูกสุนัขที่ขาดสารอาหารหรือน้ำจะมีผิวหนังที่แห้งและขาดความยืดหยุ่น ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของภาวะขาดน้ำ
พฤติกรรมการดูดนมผิดปกติ หากลูกสุนัขดูดนมอย่างหิวกระหายหรือพยายามหาเต้านมของแม่บ่อยๆ อาจเป็นไปได้ว่าพวกเขาไม่ได้รับนมที่เพียงพอ
การดูแลเรื่องอุณหภูมิสำหรับลูกสุนัขแรกเกิด
การควบคุมอุณหภูมิเป็นปัจจัยสำคัญมากในการดูแลลูกสุนัขแรกเกิด เนื่องจากลูกสุนัขในช่วงแรกเกิดไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิร่างกายได้ หากอุณหภูมิไม่เหมาะสมอาจทำให้ลูกสุนัขเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหนาวสั่นหรือความร้อนเกินไป ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
3.1 อุณหภูมิที่เหมาะสม
ช่วงสัปดาห์แรก ลูกสุนัขแรกเกิดต้องการอุณหภูมิที่ค่อนข้างอบอุ่นประมาณ 29-32°C ในช่วงสัปดาห์แรกหลังคลอด
สัปดาห์ที่สองถึงสาม สามารถลดอุณหภูมิลงมาเหลือประมาณ 26-29°C
ช่วงสี่สัปดาห์ เมื่อเข้าสู่วัยที่เริ่มสามารถวิ่งเล่นและปรับตัวได้ดียิ่งขึ้น อุณหภูมิสามารถลดลงมาอยู่ในช่วง 21-24°C หรืออุณหภูมิห้อง
หากไม่มีตู้อบสัตว์สามารถใช้ หลอดไฟขนาด 25-watt ได้
3.2 การควบคุมอุณหภูมิ
การใช้แผ่นความร้อนหรือโคมไฟให้ความอบอุ่น วางแผ่นความร้อนใต้ผ้าหรือเบาะรองนอน หรือใช้โคมไฟให้ความอบอุ่นเพื่อรักษาอุณหภูมิให้เหมาะสม แต่ควรระวังไม่ให้ลูกสุนัขสัมผัสกับความร้อนโดยตรง เพราะอาจเกิดอันตรายได้
การตรวจสอบอุณหภูมิ ใช้เครื่องวัดอุณหภูมิเพื่อตรวจสอบสภาพแวดล ้อมอย่างสม่ำเสมอ ควรมีการปรับระยะห่างของโคมไฟหรือปรับอุณหภูมิแผ่นความร้อนตามความเหมาะสม
การจัดผ้าห่มหรือที่นอน ควรมีผ้าห่มหนานุ่มที่สามารถให้ความอบอุ่นได้ ลูกสุนัขควรนอนในที่นอนที่ไม่หนาวเย็นหรือชื้น
3.3 สัญญาณของลูกสุนัขที่อุณหภูมิไม่เหมาะสม
อุณหภูมิหนาวเกินไป ลูกสุนัขจะนอนกองรวมกันเพื่อให้ความอบอุ่นและอาจร้องเสียงดัง หากสภาพแวดล้อมหนาวเกินไป ลูกสุนัขอาจตัวเย็นและเริ่มมีอาการหนาวสั่น ซึ่งต้องรีบแ ก้ไขทันที
อุณหภูมิร้อนเกินไป หากลูกสุนัขหอบหรือแยกตัวออกจากกลุ่มและหาทางหลบจากความร้อน แสดงว่าความร้อนมากเกินไป ควรปรับลดอุณหภูมิลงทันที
3.4 ความชื้นสำหรับลูกสุนัข
สำหรับลูกสุนัขแรกเกิด ความชื้นที่เหมาะสมอยู่ที่ประมาณ 55-65% เนื่องจากลูกสุนัขยังไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิและความชื้นในร่างกายได้ดีเหมือนสุนัขโตเต็มวัย การรักษาความชื้นในระดับนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้ลูกสุนัขขาดน้ำและช่วยให้ระบบทางเดินหายใจทำงาน ได้ดี
ความชื้นต่ำเกินไป ลูกสุนัขอาจเสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำ ผิวหนังแห้ง และทางเดินหายใจระคายเคือง
ความชื้นที่สูงเกินไป อาจเพิ่มความเสี่ยงของการติดเชื้อจากเชื้อราและแบคทีเรียในที่นอน
การใช้เครื่องเพิ่มความชื้น (humidifier) ในห้องที่เลี้ยงลูกสุนัขหรือการวางน้ำในภาชนะที่เปิดในบริเวณนั้นสามารถช่วยปรับความชื้นได้ ควรตรวจสอบความชื้นด้วยเครื่องวัดความชื้นเพื่อให้แน่ใจว่ามีระดับที่เหมาะสม
3.5 การปรับตัวตามช่วงวัย
ลูกสุนัขจะสามารถควบคุมอุณหภูมิร่างกายได้หลังจากอายุ 4 สัปดาห์ ซึ่งในช่วงนี้สามารถลดการให้ความร้อนจากภายนอกได้
การกระตุ้นการขับถ่ายสำหรับลูกสุนัขแรกเกิด
ลูกสุนัขแรกเกิดไม่สามารถขับถ่ายได้ด้วยตัวเองในช่วงแรก ลูกสุนัขจะได้รับการกระตุ้นจากแม่สุนัขหรือจากผู้ปกครองช่วยกระตุ้นการขับถ่าย การกระตุ้นการขับถ่ายเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วย รักษาความสะอาดและป้องกันปัญหาสุขภาพ เช่น ท้องอืด หรือการขับถ่ายผิดปกติ
4.1 การกระตุ้นการขับถ่าย
ลูกสุนัขแรกเกิดยังไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อในระบบขับถ่ายได้ ดังนั้นแม่สุนัขจะใช้ลิ้นเลียบริเวณท้องอวัยวะเพศ รูทวารของลูกสุนัขเพื่อกระตุ้นการปัสสาวะและอุจจาระ
หากแม่สุนัขไม่สามารถทำหน้าที่นี้ได้ เช่น แม่ป่วยหรือไม่อยู่ ผู้ปกครองจะต้องช่วยกระตุ้นการขับถ่ายให้ลูกสุนัข
4.2 วิธีการกระตุ้นการขับถ่าย
หลังจากที่ลูกสุนัขได้รับนมแล้ว ใช้สำลีชุบน้ำอุ่น บิดให้หมาด ๆ เช็ดบริเวณบริเวณท้องอวัยวะเพศ รูทวารของลูกสุนัขเบาๆ
การกระตุ้นนี้จะช่วยให้ลูกสุนัขปัสสาวะและขับถ่ายอุจจาระได้
4.3 ความถี่ในการกระตุ้น
ลูกสุนัขควรได้รับการกระตุ้นการขับถ่าย ทุก 2 ชั่วโมง หรือทุกครั้งหลังการให้นม ลูกสุนัขจะไม่ได้ไม่เกิดการสะสมของของเสียใ นร่างกาย
4.4การสังเกตสุขภาพการขับถ่าย
ปัสสาวะ สีปัสสาวะควรเป็นสีเหลืองอ่อน และใส หากเป็นสีเหลืองเข้มหรือส้ม แสดงว่าให้อาหารน้อยเกินไป เกิดภาวะแห้งน้ำ แนะนำให้เพิ่มรอบการให้นม
อุจจาระ ควรเป็นสีน้ำตาลอ่อนและเนื้อค่อนข้างนุ่ม หากอุจจาระมีสีผิดปกติ เช่น เขียว ดำ หรือมีเลือด ควรพาลูกสุนัขไปพบสัตวแพทย์
หากลูกสุนัขไม่ขับถ่ายเป็นเวลานานหรือมีอาการท้องอืด ควรปรึกษาสัตวแพทย์ เนื่องจากอาจเกิดการอุดตันหรือติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร
การลูบหลัง และ ลำตัว หลังกินนม จะช่วยให้เรอ ลดภาวะท้องอืดได้
4.5 ข้อควรระวัง
ห้ามใช้ความรุนแรงในการกระตุ้น เพราะลูกสุนัขแรกเกิดมีผิวหนังที่บอบบาง ควรใช้ความนุ่มนวลและหลีกเลี่ยงการทำให้เกิดการระคายเคือง
ควรรักษาความสะอาดในบริเวณที่ทำการกระตุ้นเสมอ เพื่อป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะหรือทางเดินอาหาร
การเฝ้าระวังเรื่องสุขภาพสำหรับลูกสุนัขแรกเกิด
การเฝ้าระวังสุขภาพของลูกสุนัขแรกเกิดเป็นสิ่งสำคัญมาก เนื่องจากลูกสุนัขในช่วงวัยนี้ยังมีภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอและต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด ผู้ปกครองควรสังเกตสัญญาณของปัญหาสุขภาพและการเจริญเติบโตที่ผิดปกติอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที
5.1 การตรวจสอบน้ ำหนักตัว
น้ำหนักตัวของลูกสุนัขควรเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอในแต่ละวัน โดยปกติแล้วน้ำหนักของลูกสุนัขควรเพิ่มขึ้นประมาณ 5-10% ต่อวัน ในช่วงสัปดาห์แรก
ควรชั่งน้ำหนักลูกสุนัขทุกวันในเวลาเดียวกัน หากลูกสุนัขน้ำหนักไม่เพิ่มหรือมีน้ำหนักลดลง น้ำหนักไม่ควรลดเกิน 10% ของน้ำหนักตัว และน้ำหนักตัวควรจะค่อยๆเพิ่มในวันถัดไป 5-10% ของน้ำหนักตัว
หากน้ำหนักลดลงมากกว่า 10% ควรรีบปรึกษาสัตวแพทย์ เพราะอาจเป็นสัญญาณของปัญหาทางโภชนาการหรือสุขภาพ
5.2 การสังเกตอาการผิดปกติ
อาการขาดน้ำ ลูกสุนัขที่ขาดน้ำอาจมีอาการตัวแห้ง ผิวหนังไม่ยืดหยุ่น เมื่อดึงผิวหนังแล้วผิวหนังไม่กลับสู่สภาพเดิมทันที
การหายใจ ลูกสุนัขควรหายใจได้อย่างสม่ำเสมอ หากมีการหายใจเร็วหรือมีเสียงหายใจดัง ควรปรึกษาสัตวแพทย์ทันที
อาการหนาวสั่น ลูกสุนัขที่มีอาการหนาวสั่นอาจแสดงสัญญาณของการนอนกองรวมกันหรือร้องเสียงดัง ควรตรวจสอบอุณหภูมิ รอบตัวและให้ความอบอุ่นเพิ่มเติมหากจำเป็น
อาการท้องอืดหรือท้องผูก หากลูกสุนัขท้องแข็งหรือไม่ขับถ่าย ควรกระตุ้นการขับถ่าย หากยังไม่มีการขับถ่ายเป็นเวลานาน อาจเกิดปัญหาท้องอืดหรืออุดตัน ควรรีบปรึกษาสัตวแพทย์
5.3 การสังเกตการขับถ่าย
ปัสสาวะ ควรเป็นสีเหลืองใส หากมีสีเข้มหรือมีกลิ่นแรง อาจเป็นสัญญาณของการขาดน้ำหรือปัญหาทางเดินปัสสาวะ
อุจจาระ ควรมีสีและเนื้อที่เหมาะสม คือสีน้ำตาลอ่อนและเนื้อค่อนข้างนุ่ม หากมีอุจจาระสีผิดปกติ เช่น สีดำ สีเขียว หรือมีเลือด ควรพาลูกสุนัขไปพบสัตวแพทย์ทันที
5.4 การเฝ้าระวังการติดเชื้อ
อาการของการติดเชื้อ ควรสังเกตว่าลูกสุนัขมีอาการซึม เบื่ออาหาร หรือร้องเสียงดังผิดปกติหรือไม่ ลูกสุนัขที่มีการติดเชื้ออาจมีการหายใจลำบาก มีน้ำมูก หรือน้ำลายไหล ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อรับการตรวจและรักษา
การทำความสะอาด ควรเปลี่ยนผ้าและที่นอนของลูกสุนัขเป็นประจำ เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรีย
5.5 การฉีดวัคซีนและถ่ายพยาธิ
เริ่มฉีดวัคซีนเข็มแรกได้เมื่ออายุประมาณ 45 วัน โดยเริ่มจากวัคซีนพื้นฐาน เช่น วัคซีนป้องกันโรคหัดสุนัข และลำไส้อักเสบ
ควรปรึกษาสัตวแพทย์เกี่ยวกับโปรแกรมการถ่ายพยาธิที่เหมาะสมสำหรับลูกสุนัขแรกเกิด
5.6 การปรึกษาสัตวแ พทย์
หากพบอาการผิดปกติที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการดูแลเบื้องต้น ควรปรึกษาสัตวแพทย์ทันที การพาลูกสุนัขไปตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพและเสริมสร้างการเติบโตที่ดี
การเริ่มให้อาหารลูกสุนัขแรกเกิด
เมื่อลูกสุนัขเริ่มโตขึ้น ประมาณอายุ 4 สัปดาห์ จะเป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเริ่มให้อาหารเสริมแทนนมแม่ การเปลี่ยนจากนมเป็นอาหารต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ระบบย่อยอาหารของลูกสุนัขปรับตัวได้อย ่างเหมาะสม
6.1 ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเริ่มให้อาหาร
ลูกสุนัขสามารถเริ่มได้รับอาหารได้เมื่ออายุ ประมาณ 4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับพัฒนาการของลูกสุนัขแต่ละตัว
ในช่วงนี้ลูกสุนัขจะเริ่มแสดงพฤติกรรมสนใจอาหารที่แม่สุนัขรับประทาน หรือพยายามกัดและสำรวจสิ่งต่าง ๆ ซึ่งเป็นสัญญาณว่าลูกสุนัขพร้อมที่จะเริ่มกินอาหารแล้ว
6.2 การเลือกอาหาร
อาหารลูกสุนัขแบบเปียกหรือแบบเม็ด ควรเลือกอาหารที่เหมาะสำหรับลูกสุนัข (puppy food) เนื่องจากมีสารอาหารครบถ้วนและสมดุลสำหรับการเจริญเติบโต
อาหารเปียก เหมาะสำหรับการเริ่มต้น เนื่องจากมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มและย่อยง่าย ลูกสุนัขสามารถรับประทานได้โดยไม่ต้องเคี้ยวมาก
อาหารเม็ด สามารถใช้ได้เช่นกัน แต่ควรนำมาผสมกับน้ำอุ่นเพื่อให้นิ่มและง่ายต่อการรับประทาน
6.3 วิธีการให้อาหาร
การผสมอาหาร ในช่วงแรกควรผสมนมสูตรทดแทนหรือพรีบิโอติกเล็กน้อยกับอาหารเพื่อทำให้เนื้อสัมผัสนิ่มและมีรสชาติคล้ายกับนมแม่ ค่อย ๆ ลดปริมาณนมลงเมื่อเวลาผ่านไป
การป้อนอาหาร ใช้ชามตื้นวางอาหารให้ลูกสุนัขได้ทดลองรับประทานเอง ควรเฝ้าดูการรับประทานอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจว่าลูกสุนัขสามารถกลืนและย่อยอาหารได้ดี
ความถี่ในการให้อาหาร ในช่วงเริ่มต้น ควรให้อาหารวันละ 4-6 มื้อ เนื่องจากระบบย่ อยของลูกสุนัขยังเล็กและย่อยได้ทีละน้อย
6.4 การสังเกตพฤติกรรมการกิน
สังเกตว่าลูกสุนัขรับประทานอาหารได้ดีหรือไม่มีการสำลัก อาการท้องเสียหรือไม่หากลูกสุนัขมีปัญหาในการรับประทานอาหาร ควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อหาทางแก้ไข
หากลูกสุนัขปฏิเสธอาหารหรือดูอ่อนเพลีย ควรตรวจสอบว่าลูกสุนัขยังมีความต้องการนมอยู่หรือไม่ และค่อย ๆ ปรับปริมาณอาหารให้เหมาะสม
6.5 การปรับตัวในระยะยาว
เมื่อลูกสุนัขคุ้นเคยกับอาหารแล้ว ค่อย ๆ เพิ่มปริมาณอาหารและลดการให้นมลง จนสามารถหยุดการให้นมได้อย่างสมบูรณ์เมื่ออายุประมาณ 6-8 สัปดาห์
การให้อาหารที่มีคุณภาพและครบถ้วนตั้งแต่ช่วงแรกเกิด จะช่วยให้ลูกสุนัขเติบโตแข็งแรง มีระบบย่อยอาหารที่ดี และมีพลังงานเพียงพอสำหรับการพัฒนาการในระยะต่อไป
การฉีดวัคซีนและการถ่ายพยาธิสำหรับลูกสุนัขแรกเกิด
การฉีดวัคซีนและก ารถ่ายพยาธิเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการดูแลลูกสุนัข เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันโรคที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเติบโต เจ้าของจึงควรใส่ใจในการจัดการเรื่องเหล่านี้ตั้งแต่ลูกสุนัขยังเล็ก
7.1 การฉีดวัคซีน
การฉีดวัคซีน ลูกสุนัขควรเริ่มฉีดวัคซีนเมื่ออายุประมาณ 45วัน ซึ่งเป็นช่วงที่ภูมิคุ้มกันจากนมแม่เริ่มลดลงและลูกสุนัขสามารถสร้างภูมิคุ้มกันของตนเองได้
7.2 การถ่ายพยาธิ
พยาธิเป็นปัญหาสำคัญที่อาจพบในลูกสุนัขแรกเกิด โดยพยาธิสามารถแพร่กระจายจากแม่สุนัขสู่ลูกสุนัขผ่านทางน้ำนมหรือในครรภ์ได้ พยาธิที่พบได้บ่อยในลูกสุนัข ได้แก่ พยาธิหนอนกลม พยาธิตัวตืด และพยาธิปากขอ
การฉีดวัคซีนและการถ่ายพยาธิเป็นส่วนสำคัญในการดูแลสุขภาพลูกสุนัขแรกเกิด ช่วยป้องกันโรคร้ายแรงและปัญหาสุขภาพที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เจ้าของควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อวางแผนการฉีดวัคซีนและถ่ายพยาธิให้เหมาะสมกับลูกสุนัข